วันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

การตั้งรหัสความปลอดภัย smc

 ทำตามรูปและคำอธิบายได้เลยครับ


ประวัติสุนัขบางแก้ว จากสุนัขป่าสู่บ้าน





...ตามกระแสกันหน่อยครับ สมัยก่อนคนยังกล้าๆกลัวๆที่จะเลี้ยง ตั้งแต่ข่าวหมาเฝ้าบ้านไชยยา มิตรชัย กระหน่ำกัดโจรซ่ะยับ จนต้องหนีเอาตัวรอด เพราะนิสัยน้องหมาชนิดนี้ไม่กินอาหารจากคนแปลกหน้าง่ายๆ รักเจ้าของและบริบารเจ้าบ้านของมันเป็นที่หนึ่ง ซื่อสัตย์ ราคาเด็วนี้จากแค่เพียง 4-5 พัน เด็วนี้จึงพุ่งไป 2หมื่นกว่าในทันที และ หากคอกดีๆมีดีกรี สายนิ่งๆ ราคาจะยิ่งไปไกลถึง 4 หมื่นบาท.


ประวัติสุนัขบางแก้ว



จากสุนัขป่าแถบพิษณุโลก สู่สายพันธุ์สุนัขระดับโลก

ตามประวัตินั้นชาวพิษณุโลกเล่าว่า ในสมัยก่อนเกิดน้ำท่วมใหญ่ มีสุนัขป่าเข้ามาอาศัย ที่เนินและแหล่งหากินในยามนั้น จนชาวบ้านพบเห็นและเลี้ยงไว้จนลดความร้าวร้าวลง จนเป็นสุนัขบ้านในปัจจุบัน.

สำหรับประวัติของสุนัขพันธืบางแก้วนั้นได้มีข้อสันิฐานว่า เกิดจากสุนัข 3 พันธุ์ด้วยกันผสมกันแล้วก็กลายมาเป็นบางแก้ว นั้นก็คือ พันธุ์ไทย พันธุ์สุนัขจิ้งจอก และสุนัขป่า ซึ่งพอผสมสมกันแล้วจะมีลักษณะ ขนยาวปลานกลาง ปกาแหลม หางเป็นพวง ซึ่งเป็นลักษระของสุนัข จิ้งจอก กะโหลกเป็นสามเหลี่ยม ใบหูตั้งสั้นปลายแหลม โคนหูห่างกันมากเป็นลักษณะของสุนัขป่าส่วนลักษณะของสีหรือรูปร่างก็คล้ายสุนัขพันธุ์พื้นบ้านของไทยทั่วไปนั้นเอง















สุนัขพันธุ์บางแก้ว เป็นสุนัขที่ต้นกำเนิดจาก ตำบล ท่านางงาม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งในอดีตชาวบ้านอาศัยเรือนแพอยู่สองฝั่งคลอนบางแก้ว และมีอาชีพประมงแทบทุกครัวเรือน


สุนัขพันธุ์บางแก้วเป็นสุนัขไทยพันธุ์หนึ่งที่มีความสวยงามคล้ายสุนัขพันธุ์ต่างประเทศมีขนยาวสวยงาม หางเป็นพวง มีรูปร่างขนาดปานกลางรูปทรงของลำตัวตั้งแต่ช่วงขาหน้าถึงขาหลังเป็นรูปสี่เหลี่ยม


ในระยะแรกๆ การเลี้ยงสุนัขบางแก้ว มีกเลี้ยงกันภายในบริเวณเรือนแพต่อมาได้มีการเลี้ยงแพร่หลายออกไปจากบ้านบางแก้วไปบริเวณใกล้เคียงเช่นบ้านชุมแสงสงคราม บ้านห้วยชัน บ้างวังแร่ บ้านบางระกำ เป็นต้น


ปัจจุบันสุนัขพันธุ์บางแก้วไก้มีการเลี้ยงแพร่พันธุ์ออกไปทั่วประเทศ ด้วยจุดเด่นและเป็นเสน่ห์คือเป็นสุนัขที่มีอุปนิสัยรักเจ้าของ รักถิ่นฐาน ซื่อสัตย์ ฝึกง่าย ฉลาดว่องไว และมีนิสัยดุกว่าสุนัขพันธุ์ไทยอื่นๆ ซึ่งมี ประโยชน์ต่อการใช้งานในด้านการพิทักษ์รักษาทรัพย์ภายในบ้าน ไร่นาและสวนหรือโกดังต่างๆ ได้ดีอีกด้วย ทั้งยังมีลัษณะที่สวยงามเป็นจุดเนกว่าสุนัขไทยอื่นๆ อีกด้วย













“ด้วยความดุของสุนัขเหล่านี้เอง ทำให้ชาวบ้านนิยมขอลุกสุนัขไปเลี้ยงเฝ้าบ้านจาแพร่หลายไปมากมายตามหมู่บ้านต่างๆ ด้วยความที่เป็นสุนัขที่หวงทรัพย์สิน รักเจ้าของอย่างถวายหัว และยังมีคนยาวสวยงามจึง ทำให้เป็นที่นิยมเลี้ยงไว้เป็นเพื่อตั้งแต่อดีต และในอดีตนั้นไม่มีการซื้อขายแต่จะนำสิ่งของเช่นลุกปืนหรือสิ่งของอื่นๆ ที่ชาวบ้านจำเป็นต้องใช้ไปแลกสุนัขหรือถ้าใครมีโอกาศผ่านไปยังบริเวณดังกล่าว ก็จะมีลูกสุนัขบางแก้วไปเป็นของฝากของกำนัลให้กับเจ้านาย”

ปัจจุบันสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วได้รับการพัฒนาสายพันธุ์อย่างต่อเนื่องทำให้มีรูปร่างสวยงาม โครงสร้างใหญ่กว่าในอดีต จึงเป็นที่นิยมเลี้ยงกันมากและได้แพร่หลายออกไปทั่วประเทศ.











วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ศัพท์เกี่ยวกับ COLT 1911


...1911 คืออะไร  ตอบ 1911 คือแบบปืนพกกึ่งออโต้ ที่เรียกว่า สิบเอ็ด มม. นั่นแหละ  ซึ่งมันจะมีลักษณะเฉพาะของมันอยู่ ซึ่งแบบปืน 1911 นี้ ได้มีการจดทะเบียน สิทธิบัตรไว้ มีการคุ้มครองประมาณ 80 ปี ตอนแรก ทำที่โคลท์ แห่งเดียว ตอนสงครามโลกเริ่มปะทุ ก็เริ่มมีให้บริษัทอื่นช่วยทำ พอครบ หมดอายุสิทธิบัตร หลายค่ายผลิตปืนในโลกสีน้ำเงินใบนี้ ก็พากันผลิตกันทั่วทุกมุมโลก  หน้าตา มิติ ขนาด เหมือนกันทั่วโลกเลย เรียกว่า เอาสไลด์อีกยี่ห้อ ไปสวมกับโครงอีกยี่ห้อ ก็ทำได้ เพราะผลิตในแบบของ 1911 เหมือนกัน 


โคลท์ ซีรีส์ 70 คืออะไร  ตอบ  โคลท์ ซีรีส์ 70 คือปืน แบบ 1911 ที่ผลิตโดย บริษัท โคลท์  แห่ง  ฮาร์ทฟอร์ด คอนเนคติคัล สหรัฐอเมริกา
ที่ผลิตในห้วง ค.ศ. ที่ 1970 โดยประมาณ  ...ถึง 1980 โดยประมาณ
บริษัทโคลท์ ผลิตปืนในห้วง ปี 1970 จึงเอา ค.ศ.70 มาตั้งชื่อเป็นปืน เหมือนดนตรียุค ซิกตี้ เซเว่นท์ตี้ อะไรทำนองนั้นกระมัง

ถามว่า มันต่างกันอย่างไร อันนี้ ตอบไม่ได้ เพราะ ซีรีส์ 70 คือ 1911 ในรูปแบบหนึ่ง ซีรีส์ 70 จึงไม่ต่างกับ 1911

ศัพท์เกี่ยวกับปืนที่ควรรู้

ACP
เป็นคำย่อของ  Automatic Colt Pistol (ออโต้เมติก โค้ลท์ พิสต้อล)เป็นชื่อต่อท้ายของกระสุนที่พัฒนาโดย บริษัท โค้ลท์ ไฟร์อามส์  สำหรับปืนกึ่งอัตโนมัติ เช่น  .32 ACP , .45 ACP


AUTOMATIC
ระบบปืนที่ใช้แรงดันจากการเผาไหม้ ทำงานร่วมกับระบบการทำงานของสปริง เพื่อดีดปลอกเปล่าที่ยิงแล้วออกและบรรจุกระสุนนัดใหม่เข้ารังเพลิง คำว่า AUTO นี้ ส่วนใหญ่จะใช้รวมๆกัน แม้แต่ในปืนกึ่งอัตโนมัติที่การทำงานจะทำงานในรอบเดียว และต้องเหนี่ยวไกเพื่อเริ่มระบบปฏิบัติการใหม่อีกครั้ง บ้านเราก็ยังเรียกว่าปืน AUTO

 

BARREL
ลำกล้องปืนซึ่งผลิตขึ้นจากโลหะมีเกลียวอยู่ภายใน  เป็นชิ้นส่วนที่กระสุนวิ่งรีดตัวผ่านออกไป


BLOW-BACK
ระบบหน่วงเวลาที่ใช้สปริงและน้ำหนักของสไลด์เป็นตัวหน่วงเวลาของแรงดันในรังเพลิง   โดยปืนในระบบนี้ลำกล้องจะติดตั้งอยู่กับที่ และมีชิ้นส่วนน้อย ออกแบบง่าย ต้นทุนต่ำ  แต่ข้อเสียคือไม่สามารถออกแบบให้ใช้กับกระสุนที่มีแรงดันในรังเพลิงสูงมากๆ  ส่วนใหญ่จะใช้ในปืนที่มีขนาดกระสุนไม่เกิน .380


BREECH
ลูกเลื่อน  เป็นส่วนที่จะต้องสัมผัสกับจานท้ายกระสุน เพื่อส่งกระสุนจากแม็กกาซีนเข้าสู่รังเพลิง  และเป็นส่วนที่เข็มแทงชนวนจะวิ่งออกมากระทบจอกกระสุนเพื่อจุดระเบิด  หลังจากเหนี่ยวไกทำการยิงในปืน Automatic


BREECH BOLT
แท่งลูกเลื่อน ชิ้นส่วนที่ทำหน้าที่ดันลูกกระสุนเข้ารังเพลิง ในปืนแบบลูกเลื่อนส่วนใหญ่จะเป็นปืนไรเฟิ่ลที่ผู้ยิงต้องผลักลูกเลื่อนเข้าเพื่อส่งกระสุนเข้าสู่รังเพลิง  และดึงถอยหลังเพื่อสลัดปลอกเปล่าทิ้ง   แท่งลูกเลื่อนหรือก้านลูกเลื่อนนี้  ส่วนใหญ่จะมีเข็มแทงชนวน , ขอรั้ง และตัวเตะปลอกบรรจุร่วมกันอยู่ภายในด้วย

 


BULLET
กระสุนในความหมายของบ้านเราที่ใช้กัน   แต่จริงๆแล้วคำว่า BULLET จะหมายถึงหัวกระสุนมากกว่าสำหรับความหมายที่ใช้กันในต่างประเทศ หัวกระสุนผลิตขึ้นจากวัสดุหลากหลาย เช่น ตะกั่ว, ตะกั่วเคลือบทองแดง หรือโลหะชนิดอื่นๆ และยังมีรูปแบบของหัวกระสุนที่หลากหลายในปัจจุบัน เช่น มีรูตรงกลางเพื่อเพิ่มอัตราการบานขยาย   หัวกึ่งตัด  หัวตัด  เพื่อเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงานและความต้องการ


CALIBER
ขนาดของกระสุน  จริงๆแล้วจะเป็นขนาดของเกลียวลำกล้อง ซึ่งจะใช้ต่างกันในแต่ละประเทศ  เช่น ถ้าเป็นสหรัฐอเมริกาจะใช้หน่วยเป็นนิ้ว  โดยแบ่ง 1 นิ้วออกเป็น 100 ส่วน ส่วนในยุโรปจะใช้หน่วยเป็นมิลลิเมตร   ซึ่งกระสุนบางขนาดก็จะมีชื่อเรียก 2 ชื่อ  ซึ่งจริงๆแล้วก็คือขนาดเดียวกัน   เช่น .45 และ 11 ม.ม. ก็คือกระสุนขนาดเดียวกันเพียงแต่เรียกต่างกันตามหน่วยวัดของประเทศนั้นๆ


CARTRIDGE
กระสุนคำว่า คาททริจด์ นี้ เป็นชื่อเรียกกระสุนในความหมายจริง  คือกระสุนทั้งนัดที่ประกอบด้วย  ปลอกกระสุน , หัวกระสุน , ดินปืน , จอกกระสุนหรือไพรมเม่อร์   แต่ในบ้านเราคนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่า  BULLET แปลว่ากระสุนมากกว่า


CARTRIDGE  CASE
ปลอกกระสุน   ส่วนใหญ่ทำจากทองเหลือง  เพราะมีคุณสมบัติที่เหมาะสมเพราะขยายตัวและหดตัวตามอุณหภูมิได้อย่างรวดเร็ว


CENTERFIRE
ชนวนกลาง คือลักษณะของกระสุนที่มีไพรมเม่อร์บรรจุอยู่ตรงกลางของจานท้านกระสุนเพื่อจุดระเบิดขณะทำการยิง


CHAMBER
รังเพลิง   หลังจากมีการจุดระเบิด  ปลอกกระสุนจะขยายตัวอัดแน่นกับรังเพลิงทำให้แก็สที่เกิดจากการเผาไหม้ไม่สามารถเล็ดลอดออกไปได้   และเมื่อแรงดันในรังเพลิงลดลงปลอกก็จะหดตัวลง  และระบบปฏิบัติการก็จะดึงปลอกกระสุนออกจากรังเพลิงและป้อนนัดใหม่เข้าไปในรังเพลิงต่อไป


CLIP
แหนบกระสุน   แผ่นเหล็กที่ใช้ยึดกระสุนหลายๆนัดเข้าไว้ด้วยกันเพื่อความรวดเร็วในการบรรจุกระสุน  มีใช้ในปืนไรเฟิ่ลที่นำเอากระสุนหลายๆนัดมาเรียงกันไว้ในแผ่นแหนบ ก่อนบรรจุเข้าไปในช่องที่โครงปืน    ทำงานเหมือนแม็กกาซีน ปืนที่ใช้กันในปัจจุบัน  หรือมีใช้บ้างในปืนรีวอลเว่อร์  เช่นพวกคลิปวงเดือนที่ร้อยเอากระสุนทั้งหมดไว้ในเหล็กแผ่นบางๆแทนการใช้มือหย่อนลูกลงช่องโม่ทีละลูก


COCK
ขึ้นนกเป็นลักษณะนกสับถูกง้างมาติดอยู่ในจังหวะพร้อมยิงหรือ  กลไกการรั้งเข็มมารอผู้ยิงทำการเหนี่ยวไก

CYLINDER
ในศัพท์ปืนจะแปลว่าโม่ของปืนรีวอลเว่อร์  ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นรังเพลิง  ในการเหนี่ยวไกระบบกลไกจะผลักโม่ให้หมุนไปและส่งกระสุนนัดใหม่เข้ามาอยู่ในจังหวะพร้อมยิง


DISCONECTOR
ชิ้นส่วนที่เป็นตัวป้องกันไม่ให้ปืนทำการยิงได้หากสไลด์ไม่กลับเข้าที่โดยสมบูรณ์  ซึ่งหากมีการจุดระเบิดในขณะที่กระสุนไม่ได้ถูกบรรจุเข้ารังเพลิงอย่างสมบูรณ์แล้วก็จะเป็นอันตรายมากต่อผู้ยิง   ดีสคอนเน็กเตอร์ปกติจะทำงานด้วยระบบกลไก เพื่อเชื่อมต่อระหว่างการทำงานของไกกับนกสับ  หากตัวดีสคอนเน็กเตอร์ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องปืนก็จะยิงไม่ได้  เพราะระบบกลไกของปืนจะถูกตัดการเชื่อมต่อระหว่างไกและนกสับออกจากกัน


DOUBLE ACTION
ระบบการยิงที่เลือกยิงได้ทั้งในจังหวะที่ขึ้นนกสับแล้วหรือในตำแหน่งที่นกลดชิดโครงปืนก็ได้   ระบบดับเบิ้ลจะมีกลไกที่สามารถยกนกสับขึ้นได้ด้วยการเหนี่ยวไก   นกสับจะยกตัวขึ้นจนกระทั่งหลุดจากแง่บังคบของปืนกระบอกนั้น  และฟาดลงไปบนเข็มแทงชนวน  โดยผู้ยิงไม่จำเป็นต้องง้างนกทุกครั้งเหมือนในระบบซิงเกิ้ล-แอ็คชั่น


DOUBLE BARREL SHOTGUN
ปืนลูกซองที่มีลำกล้อง 2 ลำกล้องวางอยู่คู่กัน   บ้านเรามักจะเรียกว่า ลูกซองแฝดขนาน

EJECTOR
ตัวเตะปลอกกระสุน


EXTRACTOR
ขอรั้งปลอกกระสุนทำงานโดยเกี่ยวส่วนท้ายของขอบปลอกกระสุน   แล้วดึงปลอกให้มาชนกับตัวเตะปลอก


FIRING PIN
เข็มแทงชนวน


FLASH – GAP
ช่องว่างระหว่างหน้าโม่กับท้ายลำกล้องในปืนรีวอลเว่อร์


FORE-END, FORE – Stock
กระโจมมือ

FPS.
หน่วยวัดความเร็วของกระสุน   (Feet per Second)   วัดเป็นฟุตต่อวินาที


FRAME
โครงปืนมีความหมายเดียวกับ  Receiver


GAS OPERATION
ระบบหน่วงเวลาหรือระบบบริหารกลไกของปืนที่ใช้แก็สที่เกิดจากการเผาไหม้ของกระสุนมาทำงาน

GRIP SAFETY
ระบบความปลอดภัยประเภทหนึ่งที่หากผู้ยิงไม่กำด้ามให้แน่นปืนจะไม่สามารถยิงได้   ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ระบบห้ามไกหลังอ่อนของปืนตระกูล 1911


HAMMER
นกสับ


HANDGUN
ปืนพก

HP.
 
ตัวย่อของ  “Hollow – point “   หมายถึงกระสุนหัวรู

J.
มาจากคำเต็มคือ  “Jacketed bullet” หรือกระสุนเคลือบโลหะ เช่น ทองแดง

Lever Action
ระบบคานเหวี่ยง  ทำงานโดยการโยกคานใต้โครงปืน  เพื่อบริหารกลไก  สลัดปลอก และป้อนลูกเข้ารังเพลิง

L.R.
เป็นตัวย่อของ   Long Rifle ใช้กับกระสุนขนาด .22


OVER / UNDER SHOTGUN
ปืนลูกซองแฝดในอีกรูปแบบที่มีลำกล้องยึดติดกันในแนวตั้ง  บ้านเรามักเรียกลูกซองแฝดซ้อน

PISTOL
หมายถึงปืนพกแบบกึ่งอัตโนมัติ  แบบเดียวกับที่เรียกปืนลูกโม่ว่า  รีวอลเว่อร์


PRIMER
จอกกระสุน  เป็นตัวจุดระเบิดให้กับกระสุน

PUMP ACTION
กลไกการบริหารการยิงด้วยการสาวกระโจมมือดึงเข้าและดันกลับเพื่อป้อนลูกและดีดปลอก

RIM
ขอบจานท้ายกระสุน  เป็นส่วนที่ขอรั้งปลอกเกาะเพื่อดึงปลอกออก

RIMFIRE
ชนวนริม   กระสุนแบบนี้ไม่มีจอกกระสุนอยู่ตรงกลาง  แต่จะจุดระเบิดจากการตีเข้าที่ขอบของจานท้ายกระสุน  เช่นกระสุนจำพวก .22

ROUND
ใชัเรียกในการยิงแต่ละนัด  1 นัดก็คือ  1  ROUND

RN.
ตัวย่อของ  “Round – nosed” (กระสุนหัวมน)

SEAR
ชิ้นส่วนที่ขัดกับนกในจังหวะพร้อมยิง  เมื่อเหนี่ยวไก SEAR จะปลดตัวเองจากการเกาะกับนกสับและปล่อยให้นกสับฟาดไปด้วยพลังงานจลของสปริง

SIGHT
ศูนย์ปืน

SIGHT RADIUS
ความยาวระหว่างตำแหน่งของศูนย์หน้าและศูนย์หลัง   ยิ่งยาวมากการเล็งก็จะมีความแม่นยำขึ้น

SINGLE ACTION
ระบบการยิงที่ต้องง้างนกให้อยู่ในจังหวะง้างสุดก่อน    ไม่สามารถเหนี่ยวไกให้นกสับยกตัวขึ้นเองได้   มีข้อดีคือ ไกจะคมและหวังผลในการยิงได้ค่อนข้างมาก

STOCK
พานท้าย

TRAJECTORY
วิถีกระสุน

TRANSFER BAR
ทรานส์เฟอร์บาร์   เป็นระบบความปลอดภัยอย่างหนึ่ง  โดยแท่งทรานส์เฟอร์บาร์จะเป็นตัวส่งต่อแรงระหว่างนกสับไปถึงท้ายเข็มแทงชนวน  ปกติจะทำงานจากการเหนี่ยวไกปืน

TRIGGER
ไกปืน

TWIST
การบิดตัวของร่องเกลียว  บอกเป็นอัตราส่วนเช่น 1:10 นิ้ว  หมายความว่าเกลียวของปืนกระบอกนี้จะหมุน 1 รอบ  (360  องศา)  ใน 10 นิ้ว เป็นต้น

WC. and SWC.
แว็ดคัทเตอร์ และเซมิ-แว็ดคัทเตอร์  รูปทรงของหัวกระสุน   กระสุนซ้อมขนาด .38 SPL จะเป็นแบบแว็ดคัทเตอร์ ส่วนกระสุนซ้อมขนาด .45 ในบ้านเรา จะเป็นแบบ เซมิ-แว็ดคัทเตอร์

WRM
ย่อมาจาก   Winchester Rimfire Magnum (.22 WRM)

ขอบคุณจากบทความของ ดำพระราม2.

วันศุกร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2557

กำจัด Baidu Faster ง่าย


Baidu pc Faster การทำให้เครื่องเราเร็วขึ้นไม่มีอยู่จริง

มีแต่ทำให้การโหลดเข้าเครื่องช้าลงๆทุกวัน และ ฝังตัวเองไปเรื่อยๆ ผมก็เพิ่งรู้ไม่กี่วันนี้เอง และวันนี้กำจัดมันออกไปได้แล้ว อย่างภาคภูมิใจ

อย่าเชื่อเชื่อว่าหลายๆคนคงอยากกำจัด  Baidu Faster  ไอ่เจ้าโปรแกรมตัวป่วน ที่แสนจะลบยาก มันมุดเข้าบ้านคุณโดยที่คุณไม่รู้ตัว ทำให้เครื่องโคตรหนัก เราเอาวิธีง่ายๆ มาจัดการมัน ก่อนจะบานปลาย ทำลายทุกสิ่งในคอมฯของคุณ

เชื่อว่าหลายๆคนคงเกลียดโปรแกรมนี้ เนื่องจากมีการฝังตัวใน Folder ของเราทุกอย่าง มุดเข้าดูทุกอย่าง ในคอมของเรา มันรู้ทุกอย่าง
การกำจัดนั้นยากมาก บ้างต้องใช้โปรแกรมช่วย บ้างต้องพึ่งหมอผี

ลบง่ายเพียงเข้าไปที่ Start > All Programs > Baidu PC Faster > Uninstall
 จากนั้นให้ดำเนินการตามขั้นตอนได้เลยครับ  ไปลบตรงนี้ก่อน

แล้วก็เข้ามาลบตรงนี้
ข้าไปที่ Control Panel > Add or Remove Programs(Windows XP) หรือ Programs and Features(Windows 7) > คลิกที่ Baidu PC Faster   แล้วกด Unitstall



วันอังคารที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2557

โค๊ดทำลิงค์ด้วยภาพ



1. ลิงค์ข้อความ คลิกแล้วเปลี่ยนหน้า ไปสู่่เพจที่เราต้องการ



Code<a href="ลิงค์เวปหรือลิงค์ไดอารี่">พิมพ์ข้อความ </a>



2.ดำพระราม2 am i  D2's AL.


Code<a href="ลิงค์เวปหรือลิงค์ไดอารี่" target="_blank"> พิมพ์ข้อความ </a>




3. ลิงค์รูปภาพ เมื่อคลิก จะเปลี่ยนหน้าจากภาพนี้เลย



Code<a href="ลิงค์เวปหรือลิงค์ไดอารี่"><img src="url ภาพ "</a>





4. ลิงค์รูปภาพ เมื่อคลิกแล้วจะขึ้นหน้าใหม่ ให้อีกหน้า



Code<a href="ลิงค์เวปหรือลิงค์ไดอารี่" target="_blank"><img src="url ภาพ"</a>








1. ใส่รูปภาพอย่างเดียว



<img src="XXX" "border=0">







2. ใส่รูปภาพพร้อมคำพูด

เมื่อนำเม้าส์ไปวางบนรูปจะมีข้อความปรากฎขึ้น



<img src="XXX" alt="ข้อความ">







3. ถ้าต้องการจัดตำแหน่งจัดกลางให้กับรูปภาพ

ให้ใส่คำสั่ง <center>.......</center> คร่อมลงไป



<center><img src="XXX" border=0></center>







4. ถ้าต้องการกำหนดความสูง และ กว้างของภาพ

ให้ใส่คำสั่งกำกับเพิ่ม



<img src=XXX border= XX height=XX width= XX>





คำอธิบาย



XXX แทนที่ด้วย url ของภาพ

ข้อความ = ข้อความที่ต้องการทำเป็นตัวเชื่อมโยง

border=XX ขนาดขอบของรูปภาพ แทนที่ด้วยตัวเลข

height=XX ความสูงของภาพ แทนที่ด้วยตัวเลข

width=XX ความกว้างของภาพ แทนที่ด้วยตัวเลข

(ถ้าไม่กำหนดหน่วยจะถือเป็น pixel)



ขนาดพิกเซลของภาพสามารถดูได้จากการคลิ๊กขวาที่ภาพ

แล้วเลือก Properties เหมือนตอนเราดู url ของภาพน่ะค่ะ

จะมี Size บอกขนาด(ความจุ)ของภาพ เป็น kb.



และ Dimensions บอกขนาดของภาพเป็นพิกเซลด้วย เช่น กว้าง X สูง pixels







Link : การใส่การเชื่อมโยงเพื่อลิงค์ไปยังเว็บอื่น ๆ

Code สร้างการเชื่อมโยง หรือ ลิงค์


1. สร้างลิงค์ด้วยข้อความ

<a href="http://XXX...URLของลิงค์ที่ต้องการ">ข้อความ</a>

แทนที่ http://XXX...URLของลิงค์ที่ต้องการ ด้วย URL ของลิงค์ที่ต้องการเชื่อมโยง
ข้อความ = ข้อความที่ต้องการทำเป็นตัวเชื่อมโยง



2. สร้างลิงค์ด้วยรูปภาพ (Banner)
*** โค๊ตนี้ใช้ใส่ภาพแทนลิงค์ไปยัง Pantown ในลายเซ็นต์ของเว็บ MomyPedia ได้ค่ะ ***

<a href="http://XXX...URLของลิงค์ที่ต้องการ" target=_blank><img src=XXX border=0 height=XX width=XX alt="ข้อความ"></a>


คำอธิบาย
<a href=http://XXX... ...URLของลิงค์ที่ต้องการ ใส่ URL ของเว็บที่ต้องการเชื่อมโยง
target=_blank คำสั่งนี้ใส่เพื่อให้เปิดลิงค์ที่หน้าต่างใหม่
<img src=XXX แทนที่ด้วย url ของภาพ
height = XX ความสูงของภาพที่ต้องการ
width = XX ความกว้างขอภาพที่ต้องการ
border = XX ความกว้างของขอบภาพ
alt= ข้อความ เมื่อนำเม้าส์ไปวาง



3. Link สำหรับ ส่ง Email ถึงเจ้าบ้าน
ที่จริงหน้าเว็บก็มีแล้ว แต่ก็เอาไปเผื่อต้องการให้ส่งอีเมลล์ไปยังอีเมลล์อื่น ๆ ที่ไม่ได้ให้ข้อมูลไว้กับ Pantown

ลิงค์ส่งอีเมลล์ด้วยข้อความ
<a href="mailto:...email address...">ข้อความ</a>

หรือใส่รูป
<a href="mailto:...emaik address..."><img src="XXX...URLของภาพ"></a>

คำอธิบาย
email address แทนที่ด้วย Email ของเราค่ะ
<img src=XXX แทนที่ด้วย url ของภาพ
ข้อความ = แทนที่ด้วยข้อความที่ต้องการ
โดย: เจ้าบ้าน [11 มี.ค. 52 2:52] ( IP A:58.9.151.146 X: )


ความคิดเห็นที่ 4
   Code ลิงค์แบนเนอร์ สำเร็จรูป ...

== BBL ธ.กรุงเทพ ==
<a href=https://ibanking.bangkokbank.com/BiB/index.html target=_blank><img src=http://www3.pantown.com/data/32438/board9/41.gif></a>


== K-Bank ธ.กสิกรไทย ==
<a href=https://ebank.kasikornbank.com/kcyber/login_th.html target=_blank><img src=http://www3.pantown.com/data/32438/board9/41-20090912231206.gif></a>


== SCB ธ.ไทยพาณิชย์ ==
<a href=https://www.scbeasy.com/v1.4/site/presignon/index.asp target=_blank><img src=http://www3.pantown.com/data/32438/board9/41-20090912231215.gif></a>


== KTB ธ.กรุงไทย ==
<a href=https://www.ktbonline.ktb.co.th/ibhtdocs/th_firstpageconsumer.html target=_blank><img src=http://www3.pantown.com/data/32438/board9/41-20090912231225.gif></a>


== Bay ธ.กรุงศรีฯ ==
<a href=https://www.krungsrionline.com/cgi-bin/bvisapi.dll/krungsri_ib/login/login.jsp target=_blank><img src=http://www3.pantown.com/data/32438/board9/41-20090912231231.gif></a>


== MomyPedia ห้องเปิดท้ายขายของ ==
<a href=http://community.momypedia.com/webboard_forum.aspx?fid=9 target=_blank><img src=http://www3.pantown.com/data/32438/board9/41-20090912231346.gif alt=MomyPedia_เปิดท้ายขายของ></a>


== Google Thai ==
<a href=http://www.google.co.th target=blank><img src=http://www3.pantown.com/data/32438/board9/41-20090912231319.gif></a>


==Thailand Post ==
<a href=http://track.thailandpost.co.th/trackinternet/Default.aspx target=_blank> <img src=http://www3.pantown.com/data/32438/board9/41-20090912231327.gif border=0></a>

วันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2557

นกกรงหัวจุก เสียงเพลงแห่งไพรพนา

ถิ่นกำเนิดและลักษณะของนกกรงหัวจุก

  • หากพูดถึงนกหัวจุก ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะชาวใต้ และพ่อค้าชาวจีน ตั้งแต่อดีต อาจย้อนไปได้ไกล 500 ปี หรือ 1000ปี ก็เป็นได้ ทุกวันนี้คนไทยเลี้ยงนกชนิดนี้เป็นการค้า และสะสม กระจายไปทั่วประเทศ ราคาแพง อาจเริ่มต้นที่เพียง 400 - หลักล้าน และบางสำนักมีการปั่นราคา และ หลอกลวงกันก็มี นักนิยมอนุรักษ์ รุ่นใหม่ๆไม่รู้ทัน แรกๆ จะโดนค่าครู เมื่อรู้แล้ว ก็จะเข้าใจไปเอง 
  • จริงๆแล้วนกชนิดนี้ เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่คุ้มครองไว้ มิใช่กลัวจะสูญพันธุ์ แต่คุ้มครองไว้กลัวจะกลายพันธุ์ จนทำให้นกถิ่นเดิมสูญหายไป จนไม่อาจกำหนดได้ว่า ลักษณะเป็นเช่นไร มีคนแย้งในเรื่องกฏหมาย ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ไว้ว่า มาตรา 19 ,47 ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง..(สัตว์ป่าคือ สัตว์ที่เกิดในป่า สายพันธุ์และเลือดตรงกันกับสปี้ชี่ในป่า อย่างน้อย 3-5 ชั้น ถือว่าเป็นสัตว์ป่า)..ฝ่าฝืนระวางโทษจำคุกไม่เกิน4 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    ม.4 สัตว์ป่าคุ้มครอง หมายความว่า สัตว์ป่าตามที่กฎกระทรวงกำหนดให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง
    และกรมป่าไม้ ก็ออกกฎกระทรวงประกาศให้ นกปรอดหัวโขนเคราแดง หรือ นกกรงหัวจุก( ชื่อนกกรงหัวจุกนี้ เกิดภายหลังชื่อนกปรอด คือ หลังจากเอามาเลี้ยงในกรงจนเรียกกันติดปากแล้วว่า "นกกรงหัวจุก" ซึ่งหมายความว่านกหัวจุกที่เลี้ยงในกรงไม่ใช่นกป่า กรมป่าไม้จึงมาประกาศเพิ่มเติมเมื่อ พ.ศ.2546 ในภายหลัง ซึ่งเดิมประกาศเพียงแต่ว่า "นกปรอดหัวโขนเคราแดง") เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกนก ลำดับที่ 580

  • ข่าวล่าสุดมีการยื่นหนังสือจาก สมาคมนกกรงหัวจุกแห่งประเทศไทย ชมรมนกกรงหัวจุก สมาพันธ์นกกรงหัวจุก และผู้รักนกกรงหัวจุกแห่งประเทศไทย กว่า500คน   นำโดย นายศราวุธ  วาหะรักษ์  โฆษกสมาคมนกกรงหัวจุกแห่งประเทศไทย  ยื่นข้อเรียกร้องให้กรมอุทยานฯปลดนกกรงหัวจุก  ออกจากรายชื่อสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม 


ชื่ออื่นๆ นกกรงหัวจุก (ใต้) 
นกปรอดหัวโขนเคราแดง นกปรอดหัวจุก นกปรอดหัวโขน (กลาง) 
นกพิชหลิว นกปริ๊จจะหลิว( เหนือ) 

ชื่อวิทยาศาสตร์  Pycnonotus jocosus     


    สกุล Pycnonotus ซึ่งเป็นสกุลของนกปรอดสวน เป็นสัตว์คุ้มครองประเภทนกที่เพาะพันธุ์ได้ พบอาศัยอยู่ตั้งแต่ละแวกบ้านไปจนถึงบนยอดดอยสูงและตามป่าที่ราบต่ำ มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด ๓๖ ชนิด นกมีถิ่นอาศัยอยู่แถบเอเชียในกลุ่มประเทศที่มีอุณหภูมิร้อนชื้นสูง เช่น จีน อินเดีย อินโดฯ สิงคโปร์ ลาว กัมพูชา และไทย พบเห็นได้ทุกภาคของประเทศ โดยเฉพาะนกปรอดหัวโขนเคราแดง

 ตำนานนกกรงหัวจุก (นกปรอดหัวจุก)
ลีลาการร้องของสำนวนเสียง ในนกแต่ละตัวว่าใครจะเหนือกว่ากัน แต่ในสมัยก่อนของภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดสตูล สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส กระบี่ นครศรีธรรมราช นิยมนำนกกรงหัวจุกมาชนกันหรือตีกันเหมือนกับการชนไก่ คือเอานกมาเทียบขนาดให้ใกล้เคียงกันแล้วจับใส่กรงกลางที่มีขนาดใหญ่แล้วปล่อยให้นกทั้งสองตัวไล่จิกตีกันภายในกรงจนกว่าจะรู้แพ้รู้ชนะ สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่านกปรอดหัวจุก มีนิสัยดุร้ายและชอบไล่จิกและตีกัน ตามธรรมชาติอยู่แล้ว
     การแข่งขันนกกรงหัวจุกได้มาเปลี่ยนแปลงไปเมื่อประมาณปี พ.ศ.2515 เพราะว่าชาวจังหวัดสงขลา มีแนวความคิดที่จะเปลี่ยนจากการตีกันมาเป็นแบบแข่งขันประชันเสียง โดยเอาแบบมาจากการแข่งขันของนกเขาชวา คือนำนกป่าที่ต่อมาได้นำมาเลี้ยงและฝึกให้เกิดความเชื่องกับคนเลี้ยงหรือเชื่องกับผู้ที่เป็นเจ้าของ พร้อมกับฝึกให้นกมีความสามารถในการร้องในลีลาต่างๆ ตามแต่ที่นกในแต่ละตัวจะทำได้ และผู้เล่นนกกรงหัวจุกก็เริ่มเปลี่ยนการละเล่นที่นำนกมาตีกัน มาเป็นอย่างเดียวกันกบนกเขาชวา คือการเล่นฟังเสียงอันไพเราะของนก จากนั้นการแข่งขันประชันเสียงของนกกรงหัวจุกก็เริ่มมีผู้นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จึงได้จัดให้มีการแข่งขันขึ้นอย่างเป็นทางการ เมื่อปี พ.ศ. 2519 ที่สนามบริเวณหลังสถานีรถไฟเมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งในการจัดครั้งนั้นถือว่าเป็นรายการใหญ่ที่สุดในยุคนั้น และได้ยกเลิกการแข่งขันนกกรงหัวจุกในแบบตีกัน ต่อมาเมื่อประมาณ พ.ศ.2520 ทางจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้จัดให้มีการรวมกลุ่มผู้เลี้ยงนกกรงหัวจุก โดยจัดตั้งขึ้นเป็นชมรม ซึ่งทำให้ทุกวันนี้มีชมรมต่างๆ เกิดขึ้นอย่างมากมาย
     กรุงเทพมหานคร ได้มีการเล่นนกกรงหัวจุก เมื่อประมาณ พ.ศ. 2524 โดยมีกลุ่มคนทางภาคใต้นำเอากีฬาชนิดนี้เข้ามาเผยแพร่ให้เป็นทีรู้จักและได้จัดให้มีการแข่งขัน ขึ้นเป็นครั้งแรกที่ตลอดสวนจตุจักร และนับแต่นั้นมากระแสความนิยมแข่งขันประชันเสียงของนกกรงหัวจุกก็ได้รับความนิยมสืบมาจนถึงปัจจุบัน
     นกกรงหัวจุก มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า นกปรอดหัวโขนเคราแดง หรือนกพิชหลิว ชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Pycnomotus Jocosus เป็นนกที่มีการคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 17 ให้เป็นสัตว์ป่าชนิดที่เพาะพันธุ์ได้
     วงศ์สกุล (GENUS) ของนกปรอดมีมากมายหลายชนิด วงศ์นกปรอด (Family Pycnonotidae) เป็นนกที่มีชนิดมากที่สุด ซึ่งในแต่ละชนิดก็มีเป็นจำนวนมาก และที่ถูกค้นพบมากที่สุดคือประเทศฟิลิปปินส์ ส่วนในประเทศไทยมีรายงานการค้นพบนกปรอดทั้งหมด ประมาณ 36 ชนิด โดยที่ปรอดทั่วโลกมีประมาณ 109 ชนิด
นกปรอดหัวจุกที่นิยมนำมาแข่งขันกันนั้น จะนิยมนำนกปรอดหัวโขนเคราแดง หรือที่ภาคใต้เรียกว่านกหัวจุก ภาคเหนือนิยมเรียกว่านกปริ๊จจะหลิวหรือพิชหลิว ส่วนในสายพันธุ์อื่นๆ นั้น ปัจจุบันยังไม่ปรากฏว่ามีการนำมาเลี้ยงเพื่อการแข่งขันประชันเสียงร้อง เช่นเดียวกับนกกรงหัวจุกแต่อย่างใด







วิธีดูเพศนก
นกกรงหัวจุกตัวผู้
หัวใหญ่ หน้าใหญ่ ขนคอขาวฟู ฐานจุกใหญ่ ปลายจุกโค้งไปด้านหน้าเล็กน้อย ดวงตาสดใส หมึกดำจะยาวกว่าตัวเมีย บางตัวปลายหมึกเกือบชิดกัน บัวแดงใหญ่ สีสดชัดเจน ข้อสังเกตุคือ ขนหัวปีกทั้งสองข้างมีสีแดงนิดหน่อยซึ่งตัวเมียไม่มี บริเวณขนหน้าอกหน้าท้องถ้าใช้ลมปากเป่าเบา ๆ จะเห็นขนอ่อนคลุมทั่วไป แต่ตัวเมียไม่ค่อยมี นกเก่งตอนยืนร้องจะเหยียดขาจนสุดข้อเท้า ปลายหางสอดใต้คอน ลีลาท่าเต้นงดงาม ร้องเป็นเพลงยาว ๆ มีจังหวะที่ดี 5-7 คำ
นกกรงหัวจุกตัวเมีย
หัวเล็ก หน้าเล็ก ขนคอเรียบ ๆ ฐานจุกเล็ก ปลายจุกโค้งไปด้านหลังหรือชี้ตรง หมึกดำมีไม่มาก บัวแดงเล็ก เรียบ ลีลาร้องไม่คึกคัก เพลงไม่ยาว มักร้อง 1 - 3 คำ ( ส่วนมาก 2 คำ )
นกปรอดหัวโขนที่ยังโตไม่เต็มวัยตัวผู้และตัวเมียมีลักษณะคล้ายกันบริเวณหน้าผากและหงอนมีสีน้ำตาลอมดำ แต้มสีแดงใต้ตายังไม่ปรากฏ เห็นเพียงแก้มสีขาวใต้โคนหางก็เป็นสีชมพูจางๆ หรือสีส้มอ่อน ๆ ยังไม่แดงเข้มเท่ากับพ่อแม่ สำหรับแต้มสีแดงใต้ตาเป็นลักษณะเด่นของนกปรอดหัวโขน


ลักษณะทั่วไปของนกปรอดหัวโขนเคราแดง
   แก้มและคอจนถึงหน้าอกจะมีสีขาวและมีสีแดงเป็นเส้นอยู่ข้างหูลงมาถึงหน้าอกเหมือนเป็นเส้นแบ่งขนสีขาวกับสีดำที่มีอยู่ทั่วทั้งตัว ขนส่วนหัวจะร่วมกันเป็นเหมือนหน่อตั้งอยู่บนหัวสูงขึ้นไปเหมือนหัวโขน ใต้ท้องมีขนสีขาว นกปรอดหัวโขนเคราแดง หรือนกกรงหัวจุกนั้นทางภาคใต้นิยมเลี้ยงกันมายาวนานแล้ว และสืบทอดกันมาชั่วลูกหลานจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่งจนเรียกได้ว่าการเลี้ยงนกกรงหัวจุกเป็นวัฒนธรรมพื้นบ้านหรือเป็นเกมกีฬาอย่างหนึ่งของคนภาคใต้ไปแล้ว และไม่ปรากฏหลักฐานใดๆว่าคนทางภาคใต้เริ่มเลี้ยงมาตั้งแต่เมื่อใดแต่มีหนังสือนกกรงหัวจุกเล่มหนึ่ง โดยมีคุณศักดา ท้าวสูงเนิน เป็นบรรณาธิการ ได้รวบรวมและเขียนเอาไว้ว่า
 การเริ่มเลี้ยงนกปรอด ประเทศสิงคโปร์ น่าจะเป็นชาติแรกที่นิยมเลี้ยงนกปรอดก่อนประเทศอื่นๆ และได้ให้ความสำคัญกับนกชนิดนี้มาถึงกับเอารูปนกปรอดหัวโขนเคราแดงมาเป็นสัญลักษณ์ในการพิมพ์ธนบัตรใช้จ่ายภายในประเทศ ดังนั้น จึงขอสันนิษฐานว่าน่าจะเลี้ยงก่อนชาติอื่นๆ

ส่วนในประเทศไทยเริ่มมีการเลี้ยงนกกรงหัวจุกกันมานานแล้วประมาณว่าเกิน กว่40ปีมาจนถึงปัจจุบันนี้ได้มีการพัฒนาการเลี้ยงและการแข่งขันประชันเสียงออกเป็นชนิดต่างๆ เช่นมีทั้งการแข่งขันประชันเสียงในประเภทนับดอก คือให้คะแนนตามที่นกร้องออกมาเป็นคำละคะแนน ประเภทสากล ประเภทเสียงทอง และในปัจจุบันก็ไม่ปรากฏว่ามีการแข่งขันประเภทตีกัน 








 สูตรให้นกร้องเพราะ เสียงดี ตรงพยางค์






การฝึกฝนเพื่อการแข่งขัน
การที่จะนำนกมาฝึกฝนเพื่อการแข่งขันควรเป็นนกที่อายุไม่มากและไม่ควรจะเกิน 1ปี ถ้ายิ่งได้นกอายุ 2-3 เดือนมาฟูมฟักและเลี้ยงดูคู่กับนกใหญ่เสียงดี สำเนียงดี ลูกนก ( บางแห่งเรียกลุกใบ้ )ก็จะจดจำลีลาสำเนียงจากนก ใหญ่ที่ดีและเป็นผลดีกับผู้เลี้ยงเพื่อการแข่งขันอีกด้วยในการรักษาสายพันธุ์ของสายพันธุ์สำเนียงเสียง
การฝึกซ้อมนกปรอดหัวโขน เริ่มจากอาทิตย์แรกๆ ควร ซ้อมไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อวันหลังจากพ้นหนึ่งเดือนไปแล้วก็เพิ่มเป็นวันละ 3 ชั่วโมง และต่อไปซ้อมวันละ 4 ชั่วโมง ช่วงเดือนที่สองและที่สามเราจะรู้ว่านกตัวไหนมีลีลาและสำเนียงเป็นเช่นไรเสียงผิดเพี้ยนหรือ ว่าไม่ ได้มาตรฐาน มีความตื่นตระหนกเวลาเคลื่อนย้ายและไม่ชินกับการเดินทางหรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อเราพาออกซ้อมกับนกบ้านอื่นแล้ว พบว่านกตัวนั้นหามีลีลาเป็นนักสู้แม้แต่น้อย คือ นกที่เป็นนกสู้จะออกท่าทาง ขึงขังกางปีกร้องท้าแล้วก็พองขน ถ้าไม่มีลักษณะนี้และฝึกฝนยังไงก็ไม่ดีขึ้น ควรแยกเอาไปอยู่ต่างหาก แต่ถ้านกตัวไหนทำสิ่งที่ตรงข้ามที่กล่าวมาข้างต้นถือว่าเป็นนกที่เริ่มสู้นก และมีแววเป็นนกแข่ง
สังเกตนกของเราว่าสู้นกอื่นมากขึ้นด้วยการยืนขึ้นด้วยการยืนระยะนานนั้นหมายถึงนกของเราพร้อมจะลง แข่งได้แล้ว ยิ่งนกเริ่มผลัดขนมีใจสู้นกตัวอื่น ๆ อย่างไม่เกรงกลัว นับเป็นนกลักษณะดี
สำหรับเทคนิคการดูระยะยืนของนกที่เริ่มหัดใหม่นั้นให้สังเกตตอนนำไปซ้อมกับนกตัวอื่นๆ ให้เช็คเป็นยกๆ ไป ยกละประมาณ 25-30 นาที ทำทั้งหมด 3 ยก หากนกของเราออกอาการสู้ด้วยท่าทางและสำเนียงเกิน 20 นาทีขึ้นไปก็ถือว่าใช้ได้และค่อนข้างดีทีเดียว ยิ่งสลับให้ไปประกบคู่กับนก ตัวใหม่แล้วนกของเรายังคงออกอาการสู้และส่งเสียงร้องเป็นจำนวน 3 ประโยคขึ้นไป ก็ควรทะนะถนอมให้ดี และควรหมั่นซ้อมเช่นนี้บ่อย ๆ โดยเฉพาะเมื่อจบยกสี่แล้วควรพักสัก 5 นาที แล้วเอานกเข้าไปซ้อมใหม่หากยังออกอาการเป็นนักสู้ด้วยลีลาและสำเนียงเสียง ของแต่ละบุคคล บางคนสืบทอดกันตระกูล การเลี้ยงนกชนิดนี้ จนเกิดความเชี่ยวชาญเลยก็ เข้าขึ้นหาตัวจับยากเลยก็มี และ มีลูกศิษย์ลูกหา คนเข้าคบค้าสมาคมมากมาย
 

แต่จริงๆแล้ว นกที่มันร้อง เพราะมันรู้สึกปลอดภัย จับเกาะแล้วจิงร้องอย่างมีความสุข เสียงนกที่ร้องจึงบ่งบอกถึงบทเพลงแห่งป่าและชีวิตที่แท้จริง มิใช่การจับมาขังกรงแต่อย่างใด  ธรรมชาติเป็นของทุกคน เราต้องช่วยกันดูแล แม้ชีวิตเล็กๆ ก็คือ 1 ชีวิต ถ้าเราให้เค้าอยู่กับธรรมชาติ คนอื่นๆจะได้ยินได้ยล ด้วยกัน ฯฯฯ สวัสดีครับ